สารบาญตามตัวอักษร A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z # Object Oriented Programming (OOP)
ที่มา
Object Oriented Programming (OOP) เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิด และกฎเกณฑ์การพัฒนาโปรแกรมอย่างสิ้นเชิง โดย Object Oriented Programming จัดโครงสร้างการทำงานรอบ ๆ อ๊อบเจคแทนที่คำสั่ง ทำงานกับข้อมูลมากกว่าตรรกะ ซึ่งแนวคิดเดิมโปรแกรมสามารถมองว่า กระบวนทางทางตรรกะ โดยการนำเข้าข้อมูล ประมวลผล และแสดงผลลัพธ์ จึงทำให้โปรแกรมแบบดั้งเดิมเห็นการทำงานทางตรรกะโดยการนำเข้าข้อมูล ในส่วน Object-Oriented Programming ให้ความสนใจในการควบคุมอ๊อบเจคแทนที่การใช้ตรรกะในการควบคุม
ขั้นตอนแรกของการทำงานให้เริ่มจากระบุออพเจคและความสัมพันธ์ของอ๊อบเจค หรือเรียกว่าการสร้าง Data modeling จากนั้นให้นำอ๊อบเจคมากำหนด Classและกำหนดประเภทข้อมูล รวมถึงขั้นตอนทางตรรกะ หรือ method ในการควบคุม การทำงานกับ class เป็นการเรียกอ๊อบเจค แต่บางครั้งจะเรียก class instance โดยอ๊อบเจคและ instance class เป็นสิ่งที่ทำงานอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วน method เป็นการส่งคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ และคุณสมบัติของอ๊อบเจคเป็นแสดงลักษณะข้อมูล การติดต่อกับอ๊อบเจค และภายในอ๊อบเจคใช้อินเตอร์เฟซที่เรียกว่า message
แนวคิดและกฎเกณฑ์ที่สำคัญของ Object-Oriented Programming สามารถสรุปได้ คือ
- แนวคิดของชั้นข้อมูล Data Class ทำให้สามารถกำหนด subclass ของอ๊อบเจคเพื่อการใช้ร่วมบางส่วนหรือบางส่วนใน class หลัก หรือเรียกว่า inheritance ซึ่งแนวคิดนี้ทำให้วิเคราะห์ทำได้สะดวกและลดการพัฒนาโปรแกรม
- การกำหนด Class เฉพาะข้อมูลที่ต้องการ ทำให้เมื่อมีการประมวลผลคำสั่งจะไม่สามารถไปใช้ข้อมูลอื่นของโปรแกรม คุณลักษณะการซ่อนข้อมูล ทำให้ระบบมีความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการทำให้ข้อมูลเสียหาย
- การกำหนด Class ทำให้สามารถนำไปใช้ได้อีกทั้งภายในโปรแกรมและโปรแกรมอื่น
- แนวคิดของชั้นข้อมูล ยินยอมให้ผู้พัฒนาโปรแกรมสามารถสร้างประเภทข้อมูลใหม่ได้เอง
ภาษาคอมพิวเตอร์แบบ Object-Oriented ภาษาแรก ๆ คือ Small talk ในปัจจุบันภาษา C++ และJava ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ภาษา Java ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ ในการใช้กระจายโปรแกรมประยุกต์บนระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต สารสนเทศเพิ่มเติม Terry Montlick :
What Is Object-Oriented Software?
ศัพท์เกี่ยวข้องdata type, Javaupdate: 15 พฤศจิกายน 2543
|
|