3. การเลือกข้อมูล
SELECTION statement ใช้ในการสร้างคิวรี่ หรือการสอบถามกับฐานข้อมูล และเลือกดึงข้อมูลที่ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนด
ไวยากรณ์
SELECT column1 [, column2
]
FROM tablename
[WHERE condition ];
[ ] ตัวเลือก
column |
เป็นคอลัมน์ที่ต้องการให้แสดงผล ถ้าต้องการเลือกทุกคอลัมน์ใน Table
ให้ใช้ *
SELECT * FROM weather; |
Tablename |
เป็นการระบุ Table ที่ต้องการดึงข้อมูล |
WHERE |
WHERE clause เป็นตัวเลือกซึ่งจะมีหรือไม่ก็ได้ใช้กำหนดเ หรือเงื่อนไขในการเลือกเฉพาะข้อมูลที่ต้องทราบ |
condition ที่ใช้ใน WHERE clause คือ
= |
เท่ากับ |
> |
มากกว่า |
< |
น้อยกว่า |
>= |
มากกว่าหรือเท่ากับ |
<= |
น้อยกว่าหรือเท่ากับ |
<> |
ไม่เท่ากับ |
LIKE |
(ดูหมายเหตุ 1) |
หมายเหตุ
1. LIKE เป็นแบบแผนของ operator การจับคู่ สามารถใช้ใน condition ของ WJERE
clause ซึ่ง LIKE เป็น operator ที่มีความสามารถสูงในการในการเลือกข้อมูล
เครื่องหมายเปอร์เซ็นต์ "%" สามารถเป็น wild card ในการเลือก โดยการจับคู่ตัวอักษรไม่จำกัดที่อยู่หน้าหรือหลังตัวอักษรที่กำหนด
เช่น 'R%' ให้มีอักษร R อยู่ซ้ายสุด หรือหน้า '%R' ให้มีอักษร R อยู่ขวาสุดหรือท้าย
'%R%' ให้มีอักษร R อยู่ตรงกลาง
2. SQL statement ต้องลงท้ายประโยคคำสั่งด้วยเครื่องหมาย semi colon (;)
เพื่อแสดงการสิ้นสุดคำสั่ง
ตัวอย่าง
SELECT first, last, city
FROM empinfo
WHERE first LIKE 'Er%';
SQL statement จะจับคู่เฉพาะ first ที่ขึ้นต้นด้วย 'ER' ข้อความหรือตัวอักษร
ใน WHERE clause ต้องอยู่ในเครื่องหมาย single quote (')
SELECT first, last
FROM empinfo
WHERE last LIKE '%s';
SQL statement จะจับคู่เฉพาะ first ที่ลงท้ายด้วย 's'
SELECT * FROM empinfo
WHERE first = 'Eric';
SQL statement จะเลือกแถวที่ข้อมูลในคอลัมน์ first คือ 'Eric'
ตัวอย่าง Table ชื่อ "empinfo"
|