สารบาญตามตัวอักษร A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z # i.LINK
ที่มา SearchCIO-Midmarket.com
i.LINK เป็นมาตรฐาน High Performance Serial Bus ของ Sony ตาม IEEE 1349 สำหรับอุปกรณ์เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล i.LINK ให้การเชื่อมต่อแบบ plug-and-socket เดี่ยว ซึ่งอุปกรณ์ 63 ชิ้นสามารถเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงถึง 400 Mbps (เมกะบิตต่อวินาที) มาตรฐานอธิบายบัสอนุกรม หรือเส้นทางระหว่างอุปกรณืต่อพ่วง 1 ชิ้นหรือมากกว่ากับไมโครโพรเซสเซอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงจำนวนมากที่ติดมารองรับ IEEE 1394 ในปัจจุบัน i.LINK, FireWire ของ Apple และ IEEE 1394 ให้เครื่องมือ
- plug-in serial connector อย่างง่ายที่ด้านหลังของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทต่างๆ
- สายอนุกรมบางแทนที่สายขนานหนา ที่ใช้ในเครื่องพิมพ์ในปัจจุบัน
- อัตราส่งผ่านข้อมูลสูงมาก ที่เหมาะสมกับการประยุกต์มัลติมีเดีย (100 - 200 เมกะบิตต่อวินาทีในปัจจุบัน กับอัตราสูงกว่าในภายหลัง)
- ความสามารถ Hot-plug และ Plug and Play โดยปราศจากการรบกวนเครื่องพิวเตอร์ที่ใช้งาน
- ความสามารถทำโซ่อุปกรณ์เข้าด้วยกันในหลายวิธีต่างกันโดยปราศจาก terminator หรือความต้องการติดตั้งซับซ้อน
ในเวลา การใช้ IEEE 1394 ได้รับการคาดว่าจะแทนที่การอินเตอร์เฟซแบบขนานและอนุกรมในปัจจุบัน รวมถึง Centronics parallel, RS-232C, and Small Computer System Interface (SCSI) ผลิตภัณฑ์แรกที่แนะนำกับ FireWire รวมถึง กล้องดิจิตอล ดิสก์วิดีโอดิจิตอล (digital video disks หรือ DVD), เทปวิดีโอดิจิตอล (digital video tapes), กล้องแคมคอร์ดเดอร์ดิจิตอล (digital camcorders) และระบบดนตรี เพราะ IEEE 1394 เป็นอินเตอร์เฟซ peer-to-peer แคมคอร์ดเดอร์หนึ่งเครื่องสามารถอัดเสียงกับอีกเครื่องโดยปราศจากการเสียบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยการติดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยความสามารถของ socket และบัส อุปกรณ์ต่างๆ (ตัวอย่าง กล้องวิดีโอ) สามารถเสียบต่อขณะที่คอมพิวเตอร์กำลังทำงาน
สรุปการทำงาน
มีการอินเตอร์เฟซสองระดับใน IEEE 1394 หนึ่งของบัสระนาบหลัง (backplane) ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์และอีกอุปกรณ์สำหรับการอินเตอร์เฟซ point-to-point ระหว่างอุปกรณ์กับเครื่องคอมพิวเตอร์บนสายอนุกรม บริดจ์อย่างง่ายเชื่อมต่อระหว่างสองสภาพแวดล้อม บัสระนาบหลังสนับสนุนการส่งผ่านข้อมูล 12.5, 25 หรือ 50 เมกกะบิตต่อวินาที อินเตอร์เฟซสายสนับสนุน 100, 200 หรือ 400 เมกกะบิตต่อวินาที แต่ละอินเตอร์เฟซสามารถจัดการอัตราข้อมูลเป็นไปได้และเปลี่ยนจากอินเตอร์เฟซหนึ่งไปยังอีกหนึ่งตามความต้องการ
การทำงานบัสอนุกรม ถึงแม้ว่าอุปกรณ์อยู่ในสล๊อตภายในพื้นที่หน่วยความจำปกติร่วม อุปกรณ์ 64 บิตระบุให้ยอมรับความยืดหยุ่นขนาดใหญ่ในอุปกรณืคอนฟิกในสายโซ่และโครงสร้างตามลำดับชั้นจาก socket เดี่ยว
IEEE 1394 ให้อัตราการส่งข้อมูลสองประเภท asynchronous และ isochronous โดย asynchronous สำหรับการประยุกต์โหลดและจัดเก็บแบบดั้งเดิมที่อัตราข้อมูลสามารถเริ่มต้นและขัดขวางการประยุกต์ตามความยาวข้อมูลที่มาถึงบัฟเฟอร์ อัตราส่งผ่านข้อมูล isochronous ทำให้มั่นใจว่าข้อมูลไหลที่อัตราตั้งค่าเริ่มต้น ดังนั้นการประยุกต์สามารถจัดการตามช่วงเวลา สำหรับการประยุกต์มัลติมีเดีย อัตราส่งข้อมูลชนิดนี้ลดความต้องการสำหรับบัฟเฟอร์และช่วยทำให้มั่นใจการนำเสนอต่อเนื่องสำหรับผู้ชม
มาตรฐาน 1394 ต้องการที่อุปกรณ์อยู่ภายใน 4.5 เมตรของ bus socket อุปกรณ์มากถึง 16 ชิ้นสามารถเชื่อมต่อในสายโซ่เดียว แต่ละสายโซ่มากที่สุด 4.5 เมตร (ก่อนสายอากาศสัญญาณเริ่มเกิดขึ้น) ในทางทฤษฎีสามารถมีอุปกรณ์ห่างไป 72 เมตรจากเครื่องคอมพิวเตอร์
Universal Serial Bus (USB) วิธีใหม่อีกวิธีในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ให้ความสามารถ hot plug เดียวกันกับมาตรฐาน 1394 สิ่งนี้เป็นเทคโนโลยีราคาไม่แพง แต่อัตราข้อมูลจำกัดกับ 12 Mbps (ล้านบิตต่อวินาที) Small Computer System Interface ให้อัตราส่งผ่านข้อมูลสูง (สูงถึง 40 เมกกะบิตต่อวินาที) แต่ต้องการระบุการกำหนดล่วงหน้า และอุปกรณ์จบบนอุปกรณ์สุดท้ายในสายโซ่ FireWire สามารถทำงานกับมาตรฐานบัส คอมพิวเตอร์ภายในล่าสุด Peripheral Component Interconnect (PCI) แต่อัตราส่งผ่านข้อมูลสูงกว่าอาจจะต้องพิจารณาการออกแบบพิเศษเฉพาะเพื่อลดบัฟเฟอร์ที่ต้องการสำหรับอัตราส่งผ่านไม่ตรง
ศัพท์เกี่ยวข้องbuffer, bus, DVD, megabit, microprocessor, PCI, peer-to-peer, USB, Mbps, parallel, plug and play, SCSI, IEEE 1394, RS-232C, isochronous, backplane, FireWire, serialupdate: 18 มิถุนายน 2544
|
|